ปทุมธานี เปิดหลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ “อาหารไทยต้นตำรับเพื่อการประกอบอาชีพ (Authentic Thai Cuisine)” ยกระดับ Soft Power สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ จัดงานแถลงข่าวประชาสัมพันธ์เพื่อเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมการฝึกอบรม หลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Master Thai Chef Program) ภายใต้โครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร
การอบรมจะดำเนินการระหว่างเดือนกันยายน 2568 – กุมภาพันธ์ 2569 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน ยกระดับ “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” และผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอาหารโลกในอนาคต งานแถลงข่าวจัดขึ้น ณ ห้องนครรังสิต 1 ชั้น 1 โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จังหวัดปทุมธานี

ภายในงาน ได้รับเกียรติจาก
• นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
• รองศาสตราจารย์ ดร.สุมนมาลย์ เนียมหลาง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และผู้อำนวยการโครงการ
• นายวิชิต เครือสุข รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ
ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของโครงการ รายละเอียดหลักสูตร และแนวทางการขับเคลื่อน Soft Power ผ่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยเฉพาะการดำเนินงานภายใต้โครงการ “หนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ (One Family One Soft Power: OFOS)” ที่เปิดโอกาสให้ทุกครัวเรือนสามารถเข้าถึงการพัฒนาทักษะอาชีพได้อย่างเท่าเทียม ด้วยระบบลงทะเบียนที่โปร่งใสและครอบคลุมทั่วประเทศ

หลักสูตร “อาหารไทยต้นตำรับเพื่อการประกอบอาชีพ” ได้รับการออกแบบให้ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมกว่า 242 ชั่วโมง แบ่งเป็นการเรียนออนไลน์ 92 ชั่วโมง ผ่านระบบ OFOS และ DIPROM E-Learning และการฝึกอบรมภาคสนาม 150 ชั่วโมง ณ สถานที่จัดการอบรม เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การเรียนรู้ทฤษฎีพื้นฐานอาหารไทย การคัดเลือกวัตถุดิบ การปรุงอาหารไทยต้นตำรับ 50 เมนูมาตรฐาน และเมนูอัตลักษณ์ไทยเพิ่มอีก 10 เมนู รวมถึงศิลปะการจัดจาน การบริหารจัดการครัว การควบคุมคุณภาพอาหาร และมาตรฐานสุขอนามัยความปลอดภัยอาหารตามหลักสากล

ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับการประเมินทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับการรับรอง มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ 4 จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นคุณวุฒิสูงสุดด้านอาหารไทย สามารถใช้สมัครงานได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังได้รับการส่งเสริมให้มีการรับรองมาตรฐานผู้สัมผัสอาหาร (Food Handler Standard) จากหน่วยงานด้านสาธารณสุข เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร

โครงการนี้ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา และชุมชน เพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพแก่ประชาชน โดยเฉพาะครัวเรือนที่ต้องการพัฒนาทักษะด้านอาหารไทยให้สามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้จริง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเชื่อมั่นว่า ผู้ที่ผ่านการอบรมจะไม่เพียงสร้างรายได้ที่มั่นคง แต่ยังทำหน้าที่เป็น “ทูตวัฒนธรรม” ถ่ายทอดอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านอาหารไทยสู่เวทีโลก พร้อมผลักดันประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอาหารโลกอย่างแท้จริง
ภาพ/ข่าว วะจะนะชัย วาจาพารวย/รายงาน